โซลูชันโดรนจาก ORQA FPV ด้วยการพิมพ์ 3 มิติแบบ SLS โพสต์โดย FIT THAI เมื่อ 5 ธันวาคม 2025 กฎระเบียบด้านการค้าและภาษีศุลกากรส่งผลกระทบต่อบางอุตสาหกรรมมากกว่าอุตสาหกรรมอื่น โดยเฉพาะตลาดที่ยังใหม่ เช่น การผลิตโดรน ซึ่งมักได้รับผลกระทบหนักกว่าอุตสาหกรรมที่มีความมั่นคง เนื่องจากมีความหลากหลายในซัพพลายเชนน้อยกว่า ORQA FPV ผู้ผลิตโดรนจากโครเอเชีย มองเห็นประเด็นนี้ตั้งแต่ก่อนเกิดสงครามการค้าปี 2025 หลายปีแล้ว และวันนี้ ซัพพลายเชนและฐานการผลิตที่พวกเขาสร้างขึ้นภายในสหภาพยุโรป ทำให้พวกเขาอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมที่สุดในการนำเสนอทางเลือกให้ผู้ที่ต้องการผู้ผลิตที่ไม่ต้องพึ่งพาโรงงานจากต่างประเทศขนาดใหญ่ หนึ่งในองค์ประกอบสำคัญของการสร้างซัพพลายเชนที่มั่นคง คือการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีการพิมพ์สามมิติของ Formlabs แบบ Selective Laser Sintering (SLS) ภายในบริษัทเอง ด้วยเครื่องพิมพ์ Fuse Series SLS จำนวนสองเครื่อง และวัสดุ Nylon 12 Powder และ TPU 90A Powder การพิมพ์แบบ SLS ทำให้พวกเขามีเวิร์กโฟลว์ที่คล่องตัว คุ้มค่า และช่วยให้เข้าตลาดได้เร็วขึ้น พร้อมทั้งสามารถผลิตชิ้นส่วนคุณภาพสูงครบทุกประเภทที่อุตสาหกรรมโดรนต้องการ ORQA เริ่มต้นขึ้นในปี 2018 จากพื้นที่บ่มเพาะธุรกิจสำหรับผู้ประกอบการ โดยมีผู้ก่อตั้งรุ่นใหม่สามคนที่เห็นช่องว่างในซัพพลายเชนของอุตสาหกรรมโดรนในยุโรป “ผู้ใช้งานในสหภาพยุโรปและสหรัฐฯ ในภาคงานความปลอดภัยสาธารณะไม่สามารถใช้เทคโนโลยีล้ำสมัยได้ เพราะผู้นำตลาดหลายรายถูกขึ้นบัญชีดำด้วยเหตุผลด้านความมั่นคง” อันโตนิโอ โควัค หัวหน้าวิศวกรออกแบบเครื่องกลของ ORQA กล่าว แม้ว่าบริษัทต่างชาติสามารถขายโดรน FPV และอุปกรณ์เสริมราคาถูกให้ผู้บริโภคทั่วไปในสหรัฐฯ และสหภาพยุโรปได้ แต่หน่วยงานด้านความมั่นคงและความปลอดภัยสาธารณะกลับมักถูกจำกัดไม่ให้ใช้สินค้าจากบริษัทเหล่านั้น ธุรกิจและหน่วยงานที่ได้รับเงินสนับสนุนจากรัฐจึงต้องพึ่งพาซัพพลายเชนที่มีตัวเลือกจำกัดในการเข้าถึงเทคโนโลยีโดรนระดับล้ำสมัย ผู้ก่อตั้ง ORQA มองเห็นความเหลื่อมล้ำนี้ และเริ่มพัฒนาต้นแบบ พร้อมนำไปจัดแสดงในงาน CES ปี 2019 ซึ่งเป็นช่วงที่กระแสโดรนกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว ต้นแบบที่นำไปโชว์ใน CES ช่วยผลักดันแคมเปญ Kickstarter ให้ประสบความสำเร็จ — โดยขายแว่นตาบินพร้อมจอภาพขั้นสูงได้ถึง 600 คู่ ต้นแบบเหล่านั้นส่วนใหญ่ผลิตด้วยเครื่องพิมพ์ SLS รุ่นเก่า EOS Formiga “ในช่วงสองถึงสามปีแรกของการออกแบบและทดสอบ เราใช้ห้องปฏิบัติการพิมพ์ของอินคิวเบเตอร์ ซึ่งมีทั้ง FDM, SLA และเครื่อง EOS Formiga ขนาดใหญ่ มันช่วยให้เราได้รับคำสั่งซื้อแรก ๆ แต่ราคาแพงและใหญ่เกินกว่าที่เราจะซื้อมาใช้เอง” โควัคกล่าว เมื่อ ORQA ขยายไลน์สินค้า — ตั้งแต่แว่นตาสำหรับแข่งโดรน, แผงวงจร, เสาอากาศ, แท่นฐาน, ใบพัด ไปจนถึงโดรนประกอบสำเร็จรูป — ทีมงานตระหนักว่าจำเป็นต้องมีเครื่องพิมพ์ 3 มิติเป็นของตัวเอง ที่รองรับการผลิตจำนวนมาก การทำต้นแบบซ้ำๆ และการทดสอบชิ้นงานจริงได้อย่างต่อเนื่อง ทำไม ORQA จึงเลือกเพิ่มเครื่องพิมพ์ Fuse Series เข้ามาในกระบวนการผลิต การขยายฐานลูกค้าและเพิ่มไลน์ผลิตภัณฑ์ใหม่เป็นเรื่องดีต่อธุรกิจ แต่ทีม ORQA กลับถูกจำกัดเพราะต้องใช้ห้องปฏิบัติการพิมพ์ 3 มิติร่วมกับผู้อื่น แม้พวกเขาจะมีพื้นที่ว่างในออฟฟิศสำหรับวางเครื่องพิมพ์ แต่ก็ไม่มากพอสำหรับเครื่อง SLS รุ่นเก่าอย่าง Formigaหลังจากใช้งานเครื่อง EOS ร่วมกับผู้อื่นมาหลายปี ORQA จึงตัดสินใจติดตั้งเครื่องพิมพ์ของตัวเองในออฟฟิศ โดยเลือกโซลูชันทรงพลังที่สามารถเติบโตไปพร้อมกับธุรกิจ ซีรีส์ Fuse “สำหรับ Formiga คุณต้องมีพื้นที่อย่างน้อยราว ๆ 10 ตารางเมตร แต่ Fuse มีขนาดค่อนข้างกะทัดรัด Formiga ใช้เวลาพิมพ์หนึ่งงานทั้งวัน แต่ Fuse เร็วกว่า และระบบโดยรวมสะอาดกว่า” Fuse 1 ใช้พื้นที่เพียง 64.5 × 68.5 × 107 ซม. ทำให้วางได้อย่างลงตัวในพื้นที่สำนักงานของ ORQA และสามารถผลิตชิ้นส่วนที่ใช้งานได้ทุกวัน เร่งรอบการทำต้นแบบและช่วยให้ธุรกิจเติบโตอย่างก้าวกระโดด — อันโตนิโอ โควัค, Mechanical Designer, ORQA FPV กล่าวว่า “ในตอนนั้น โดยเฉพาะฝ่ายเครื่องกล เราถือว่าเป็นสิ่งที่ต้องมีถ้าอยากเติบโต ถ้าเราต้องสั่งชิ้นส่วนจาก Shapeways คงต้องใช้เวลาสองเดือนกว่าจะลองไอเดียได้หนึ่งครั้ง แต่ตอนนี้เราพิมพ์งานได้ภายในวันเดียว” ความเร็ว ปริมาณการผลิต และการสลับวัสดุ เมื่อ Fuse 1 สามารถผลิตชิ้นงานได้ทุกวัน ORQA ก็เติบโตรวดเร็วยิ่งขึ้น จากผู้ก่อตั้งสามคนในปี 2019 กลายเป็นทีมกว่า 140 คนในปัจจุบัน การเติบโตของบริษัทสอดคล้องกับการขยายตัวของอุตสาหกรรมโดรนโดยรวม ผู้ผลิตโดรนในสหรัฐฯ และสหภาพยุโรปต้องการชิ้นส่วนที่ไม่มีความเสี่ยงด้านความมั่นคง และธุรกิจบริการโดรน (เช่น งานตรวจสอบก่อสร้าง งานบำรุงรักษากังหันลมนอกชายฝั่ง เป็นต้น) ต้องการโดรนคุณภาพสูงสำหรับงานของตน ORQA สามารถตอบโจทย์ความต้องการเหล่านั้นได้ ด้วยการออกแบบและผลิตชิ้นส่วนทุกอย่างด้วยตัวเองในโครเอเชีย — ตั้งแต่แผงควบคุมความเร็วไฟฟ้า (ESCs), เสาอากาศ, ระบบควบคุมการบิน, แว่นตาบิน FPV ไปจนถึงโดรนประกอบสำเร็จรูปทั้งชุด เมื่อความต้องการเพิ่มสูงขึ้น ORQA ได้ทดลองใช้วัสดุต่าง ๆ เช่น TPU 90A Powder แต่ในที่สุดก็พบว่าพวกเขาต้องใช้ Nylon 12 Powder สำหรับชิ้นส่วนจำนวนมากขึ้น เช่น ตัวยึดกล้อง (camera mount) ที่มีชิ้นส่วนเชื่อมประกบกันและต้องการความเที่ยงตรงสูง ซีรีส์ Fuse ช่วยให้สามารถผลิตชิ้นส่วนใช้งานจริงในปริมาณไม่มากได้อย่างคุ้มค่า ด้วยเทคโนโลยีที่โครงสร้างสามารถรองรับตัวเองได้ (self-supporting) และขนาดห้องพิมพ์ที่ใหญ่ ธุรกิจขนาดเล็กจึงสามารถหลีกเลี่ยงต้นทุนและระยะเวลาการทำแม่พิมพ์ได้ โดยผลิตชิ้นส่วนใช้งานจริงด้วยการพิมพ์ SLS ภายในบริษัทเอง ไม่นาน ORQA ก็ต้องการพลังการพิมพ์สามมิติที่มากยิ่งขึ้น พวกเขาจึงนำเครื่อง Fuse 1+ 30W เข้ามาในปี 2024 เพื่อรองรับการพิมพ์ที่เร็วขึ้นและวัสดุ SLS ที่หลากหลายกว่าเดิม เมื่อมีเครื่องพิมพ์สองเครื่องภายในบริษัท พวกเขาจึงสามารถแยกเครื่องหนึ่งไว้ใช้กับ TPU 90A Powder ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งสำหรับชิ้นส่วนที่ต้องทนแรงกระแทกบนโดรน “เวลาทดสอบโดรน ต้องให้ชิ้นส่วนหลักทนแรงกระแทกได้ และนั่นหมายถึงการป้องกันแรงกระแทกที่ดี เราชอบใช้ TPU สำหรับชิ้นส่วนที่ต้องการการดูดซับแรง เช่น ตัวยึดชิ้นส่วนบอบบางอย่างโมดูล GPS วัสดุ TPU ดีมากและทนทานสุด ๆ” โควัคกล่าว สำหรับชิ้นส่วนแบบนิ่มบางชิ้นที่ตามปกติจะต้องเปลี่ยนแม่พิมพ์ฉีดพลาสติก ทีมงาน ORQA ตัดสินใจใช้ TPU ที่พิมพ์แบบ SLS ในการผลิตใช้งานจริงแทน พวกเขาต้องผลิต TPU หลายร้อยชิ้น และสามารถพิมพ์ทั้งหมดด้วย Fuse 1+ 30W ได้ภายในไม่กี่วัน “ด้วย Fuse 1+ เราได้ชิ้นงานภายในวันเดียว ไม่ต้องรอการปรับแม่พิมพ์” โควัคกล่าว หลังจากเสร็จงานผลิตล็อตนั้นแล้ว ความต้องการชิ้นส่วนที่ใช้ Nylon 12 Powder ก็เพิ่มขึ้นอย่างเร่งด่วน ORQA จึงตัดสินใจสลับผงวัสดุในเครื่องทั้งสองเครื่องของ Fuse Series “การทำความสะอาดเครื่องและสลับผงจาก Nylon 12 ไป TPU ใช้เวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมง และเมื่อดูจากปริมาณชิ้นงานที่ต้องผลิต การนำ Nylon 12 ไปใช้บน Fuse 1+ ก็สมเหตุสมผลเพราะมันเร็วกว่า” โควัคอธิบาย ทีม ORQA มักสั่งวัสดุครั้งละ 50 กิโลกรัม โดยใช้ประโยชน์จากราคาวัสดุแบบเหมาซื้อสำหรับลูกค้าระดับการผลิต เพื่อให้ต้นทุนการดำเนินงานมีประสิทธิภาพสูงที่สุด “เรามีผงรวมกัน 100 กิโลกรัมพร้อมใช้งาน มันคุ้มค่ากว่าที่จะสั่งแบบยกลัง และเราก็มั่นใจว่าจะไม่เกิดเหตุผงหมดกลางงานผลิต” โควัคกล่าว ประทับใจกับประสิทธิภาพเหนือความคาดหมายของ Fuse Series ชิ้นส่วนแบบยืดหยุ่นเหล่านี้ ซึ่งพิมพ์ด้วย TPU 90A Powder บนเครื่อง Fuse 1+ 30W ถูกใช้สำหรับทำต้นแบบชิ้นส่วนแว่นตา FPV วัสดุแบบนิ่มนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับต้นแบบที่ใช้งานได้จริงของอุปกรณ์สวมใส่ เช่น แว่นตา เฟรมโดรนสีแดงและดำ เฟรมโดรนแบบควอดคอปเตอร์และตัวป้องกันใบพัดเหล่านี้ใช้ประโยชน์จากความทนทานของ Nylon 12 Powder (ชิ้นส่วนสีดำ) และชิ้นส่วนที่พิมพ์ด้วยเทคโนโลยี SLA (ชิ้นส่วนสีแดง) ในอุตสาหกรรมที่เติบโตอย่างรวดเร็วแบบก้าวกระโดด ความมั่นคงของซัพพลายเชนและความสามารถในการเพิ่มกำลังการผลิตอย่างทันท่วงที คือกุญแจสำคัญในการก้าวนำคู่แข่ง แม้จะเพียงสองปีนับตั้งแต่ทีม ORQA ย้ายเข้าสู่โรงงานของตนเอง แต่การเติบโตของพวกเขาก็เร่งขึ้นอย่างมากจากการใช้เทคโนโลยี SLS 3D Printing ภายในบริษัท ด้วยเครื่องในซีรีส์ Fuse “เราประหลาดใจมากกับผลลัพธ์ที่ Fuse 1+ 30W มอบให้ มันเร็วมาก และทั้งระบบถูกออกแบบมาอย่างดีเยี่ยม เราพอใจกับมันมาก และในอนาคตเราวางแผนจะขยายเป็นหลายเครื่อง”— อันโตนิโอ โควัค, Mechanical Designer, ORQA FPV บทความอ้างอิง https://formlabs.com/blog/drone-solutions-sls-3d-printing-orqa-fpv/ แท็ก: 3DPrinter แชร์ แชร์บน Facebook 0 ความคิดเห็น แสดงความคิดเห็น ชื่อ อีเมล ข้อความ
ทำไม ORQA จึงเลือกเพิ่มเครื่องพิมพ์ Fuse Series เข้ามาในกระบวนการผลิต การขยายฐานลูกค้าและเพิ่มไลน์ผลิตภัณฑ์ใหม่เป็นเรื่องดีต่อธุรกิจ แต่ทีม ORQA กลับถูกจำกัดเพราะต้องใช้ห้องปฏิบัติการพิมพ์ 3 มิติร่วมกับผู้อื่น แม้พวกเขาจะมีพื้นที่ว่างในออฟฟิศสำหรับวางเครื่องพิมพ์ แต่ก็ไม่มากพอสำหรับเครื่อง SLS รุ่นเก่าอย่าง Formigaหลังจากใช้งานเครื่อง EOS ร่วมกับผู้อื่นมาหลายปี ORQA จึงตัดสินใจติดตั้งเครื่องพิมพ์ของตัวเองในออฟฟิศ โดยเลือกโซลูชันทรงพลังที่สามารถเติบโตไปพร้อมกับธุรกิจ ซีรีส์ Fuse “สำหรับ Formiga คุณต้องมีพื้นที่อย่างน้อยราว ๆ 10 ตารางเมตร แต่ Fuse มีขนาดค่อนข้างกะทัดรัด Formiga ใช้เวลาพิมพ์หนึ่งงานทั้งวัน แต่ Fuse เร็วกว่า และระบบโดยรวมสะอาดกว่า” Fuse 1 ใช้พื้นที่เพียง 64.5 × 68.5 × 107 ซม. ทำให้วางได้อย่างลงตัวในพื้นที่สำนักงานของ ORQA และสามารถผลิตชิ้นส่วนที่ใช้งานได้ทุกวัน เร่งรอบการทำต้นแบบและช่วยให้ธุรกิจเติบโตอย่างก้าวกระโดด — อันโตนิโอ โควัค, Mechanical Designer, ORQA FPV กล่าวว่า “ในตอนนั้น โดยเฉพาะฝ่ายเครื่องกล เราถือว่าเป็นสิ่งที่ต้องมีถ้าอยากเติบโต ถ้าเราต้องสั่งชิ้นส่วนจาก Shapeways คงต้องใช้เวลาสองเดือนกว่าจะลองไอเดียได้หนึ่งครั้ง แต่ตอนนี้เราพิมพ์งานได้ภายในวันเดียว” ความเร็ว ปริมาณการผลิต และการสลับวัสดุ เมื่อ Fuse 1 สามารถผลิตชิ้นงานได้ทุกวัน ORQA ก็เติบโตรวดเร็วยิ่งขึ้น จากผู้ก่อตั้งสามคนในปี 2019 กลายเป็นทีมกว่า 140 คนในปัจจุบัน การเติบโตของบริษัทสอดคล้องกับการขยายตัวของอุตสาหกรรมโดรนโดยรวม ผู้ผลิตโดรนในสหรัฐฯ และสหภาพยุโรปต้องการชิ้นส่วนที่ไม่มีความเสี่ยงด้านความมั่นคง และธุรกิจบริการโดรน (เช่น งานตรวจสอบก่อสร้าง งานบำรุงรักษากังหันลมนอกชายฝั่ง เป็นต้น) ต้องการโดรนคุณภาพสูงสำหรับงานของตน ORQA สามารถตอบโจทย์ความต้องการเหล่านั้นได้ ด้วยการออกแบบและผลิตชิ้นส่วนทุกอย่างด้วยตัวเองในโครเอเชีย — ตั้งแต่แผงควบคุมความเร็วไฟฟ้า (ESCs), เสาอากาศ, ระบบควบคุมการบิน, แว่นตาบิน FPV ไปจนถึงโดรนประกอบสำเร็จรูปทั้งชุด เมื่อความต้องการเพิ่มสูงขึ้น ORQA ได้ทดลองใช้วัสดุต่าง ๆ เช่น TPU 90A Powder แต่ในที่สุดก็พบว่าพวกเขาต้องใช้ Nylon 12 Powder สำหรับชิ้นส่วนจำนวนมากขึ้น เช่น ตัวยึดกล้อง (camera mount) ที่มีชิ้นส่วนเชื่อมประกบกันและต้องการความเที่ยงตรงสูง ซีรีส์ Fuse ช่วยให้สามารถผลิตชิ้นส่วนใช้งานจริงในปริมาณไม่มากได้อย่างคุ้มค่า ด้วยเทคโนโลยีที่โครงสร้างสามารถรองรับตัวเองได้ (self-supporting) และขนาดห้องพิมพ์ที่ใหญ่ ธุรกิจขนาดเล็กจึงสามารถหลีกเลี่ยงต้นทุนและระยะเวลาการทำแม่พิมพ์ได้ โดยผลิตชิ้นส่วนใช้งานจริงด้วยการพิมพ์ SLS ภายในบริษัทเอง ไม่นาน ORQA ก็ต้องการพลังการพิมพ์สามมิติที่มากยิ่งขึ้น พวกเขาจึงนำเครื่อง Fuse 1+ 30W เข้ามาในปี 2024 เพื่อรองรับการพิมพ์ที่เร็วขึ้นและวัสดุ SLS ที่หลากหลายกว่าเดิม เมื่อมีเครื่องพิมพ์สองเครื่องภายในบริษัท พวกเขาจึงสามารถแยกเครื่องหนึ่งไว้ใช้กับ TPU 90A Powder ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งสำหรับชิ้นส่วนที่ต้องทนแรงกระแทกบนโดรน “เวลาทดสอบโดรน ต้องให้ชิ้นส่วนหลักทนแรงกระแทกได้ และนั่นหมายถึงการป้องกันแรงกระแทกที่ดี เราชอบใช้ TPU สำหรับชิ้นส่วนที่ต้องการการดูดซับแรง เช่น ตัวยึดชิ้นส่วนบอบบางอย่างโมดูล GPS วัสดุ TPU ดีมากและทนทานสุด ๆ” โควัคกล่าว สำหรับชิ้นส่วนแบบนิ่มบางชิ้นที่ตามปกติจะต้องเปลี่ยนแม่พิมพ์ฉีดพลาสติก ทีมงาน ORQA ตัดสินใจใช้ TPU ที่พิมพ์แบบ SLS ในการผลิตใช้งานจริงแทน พวกเขาต้องผลิต TPU หลายร้อยชิ้น และสามารถพิมพ์ทั้งหมดด้วย Fuse 1+ 30W ได้ภายในไม่กี่วัน “ด้วย Fuse 1+ เราได้ชิ้นงานภายในวันเดียว ไม่ต้องรอการปรับแม่พิมพ์” โควัคกล่าว หลังจากเสร็จงานผลิตล็อตนั้นแล้ว ความต้องการชิ้นส่วนที่ใช้ Nylon 12 Powder ก็เพิ่มขึ้นอย่างเร่งด่วน ORQA จึงตัดสินใจสลับผงวัสดุในเครื่องทั้งสองเครื่องของ Fuse Series “การทำความสะอาดเครื่องและสลับผงจาก Nylon 12 ไป TPU ใช้เวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมง และเมื่อดูจากปริมาณชิ้นงานที่ต้องผลิต การนำ Nylon 12 ไปใช้บน Fuse 1+ ก็สมเหตุสมผลเพราะมันเร็วกว่า” โควัคอธิบาย ทีม ORQA มักสั่งวัสดุครั้งละ 50 กิโลกรัม โดยใช้ประโยชน์จากราคาวัสดุแบบเหมาซื้อสำหรับลูกค้าระดับการผลิต เพื่อให้ต้นทุนการดำเนินงานมีประสิทธิภาพสูงที่สุด “เรามีผงรวมกัน 100 กิโลกรัมพร้อมใช้งาน มันคุ้มค่ากว่าที่จะสั่งแบบยกลัง และเราก็มั่นใจว่าจะไม่เกิดเหตุผงหมดกลางงานผลิต” โควัคกล่าว ประทับใจกับประสิทธิภาพเหนือความคาดหมายของ Fuse Series ชิ้นส่วนแบบยืดหยุ่นเหล่านี้ ซึ่งพิมพ์ด้วย TPU 90A Powder บนเครื่อง Fuse 1+ 30W ถูกใช้สำหรับทำต้นแบบชิ้นส่วนแว่นตา FPV วัสดุแบบนิ่มนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับต้นแบบที่ใช้งานได้จริงของอุปกรณ์สวมใส่ เช่น แว่นตา เฟรมโดรนสีแดงและดำ เฟรมโดรนแบบควอดคอปเตอร์และตัวป้องกันใบพัดเหล่านี้ใช้ประโยชน์จากความทนทานของ Nylon 12 Powder (ชิ้นส่วนสีดำ) และชิ้นส่วนที่พิมพ์ด้วยเทคโนโลยี SLA (ชิ้นส่วนสีแดง) ในอุตสาหกรรมที่เติบโตอย่างรวดเร็วแบบก้าวกระโดด ความมั่นคงของซัพพลายเชนและความสามารถในการเพิ่มกำลังการผลิตอย่างทันท่วงที คือกุญแจสำคัญในการก้าวนำคู่แข่ง แม้จะเพียงสองปีนับตั้งแต่ทีม ORQA ย้ายเข้าสู่โรงงานของตนเอง แต่การเติบโตของพวกเขาก็เร่งขึ้นอย่างมากจากการใช้เทคโนโลยี SLS 3D Printing ภายในบริษัท ด้วยเครื่องในซีรีส์ Fuse “เราประหลาดใจมากกับผลลัพธ์ที่ Fuse 1+ 30W มอบให้ มันเร็วมาก และทั้งระบบถูกออกแบบมาอย่างดีเยี่ยม เราพอใจกับมันมาก และในอนาคตเราวางแผนจะขยายเป็นหลายเครื่อง”— อันโตนิโอ โควัค, Mechanical Designer, ORQA FPV บทความอ้างอิง https://formlabs.com/blog/drone-solutions-sls-3d-printing-orqa-fpv/
ความเร็ว ปริมาณการผลิต และการสลับวัสดุ เมื่อ Fuse 1 สามารถผลิตชิ้นงานได้ทุกวัน ORQA ก็เติบโตรวดเร็วยิ่งขึ้น จากผู้ก่อตั้งสามคนในปี 2019 กลายเป็นทีมกว่า 140 คนในปัจจุบัน การเติบโตของบริษัทสอดคล้องกับการขยายตัวของอุตสาหกรรมโดรนโดยรวม ผู้ผลิตโดรนในสหรัฐฯ และสหภาพยุโรปต้องการชิ้นส่วนที่ไม่มีความเสี่ยงด้านความมั่นคง และธุรกิจบริการโดรน (เช่น งานตรวจสอบก่อสร้าง งานบำรุงรักษากังหันลมนอกชายฝั่ง เป็นต้น) ต้องการโดรนคุณภาพสูงสำหรับงานของตน ORQA สามารถตอบโจทย์ความต้องการเหล่านั้นได้ ด้วยการออกแบบและผลิตชิ้นส่วนทุกอย่างด้วยตัวเองในโครเอเชีย — ตั้งแต่แผงควบคุมความเร็วไฟฟ้า (ESCs), เสาอากาศ, ระบบควบคุมการบิน, แว่นตาบิน FPV ไปจนถึงโดรนประกอบสำเร็จรูปทั้งชุด เมื่อความต้องการเพิ่มสูงขึ้น ORQA ได้ทดลองใช้วัสดุต่าง ๆ เช่น TPU 90A Powder แต่ในที่สุดก็พบว่าพวกเขาต้องใช้ Nylon 12 Powder สำหรับชิ้นส่วนจำนวนมากขึ้น เช่น ตัวยึดกล้อง (camera mount) ที่มีชิ้นส่วนเชื่อมประกบกันและต้องการความเที่ยงตรงสูง
ประทับใจกับประสิทธิภาพเหนือความคาดหมายของ Fuse Series ชิ้นส่วนแบบยืดหยุ่นเหล่านี้ ซึ่งพิมพ์ด้วย TPU 90A Powder บนเครื่อง Fuse 1+ 30W ถูกใช้สำหรับทำต้นแบบชิ้นส่วนแว่นตา FPV วัสดุแบบนิ่มนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับต้นแบบที่ใช้งานได้จริงของอุปกรณ์สวมใส่ เช่น แว่นตา เฟรมโดรนสีแดงและดำ เฟรมโดรนแบบควอดคอปเตอร์และตัวป้องกันใบพัดเหล่านี้ใช้ประโยชน์จากความทนทานของ Nylon 12 Powder (ชิ้นส่วนสีดำ) และชิ้นส่วนที่พิมพ์ด้วยเทคโนโลยี SLA (ชิ้นส่วนสีแดง) ในอุตสาหกรรมที่เติบโตอย่างรวดเร็วแบบก้าวกระโดด ความมั่นคงของซัพพลายเชนและความสามารถในการเพิ่มกำลังการผลิตอย่างทันท่วงที คือกุญแจสำคัญในการก้าวนำคู่แข่ง แม้จะเพียงสองปีนับตั้งแต่ทีม ORQA ย้ายเข้าสู่โรงงานของตนเอง แต่การเติบโตของพวกเขาก็เร่งขึ้นอย่างมากจากการใช้เทคโนโลยี SLS 3D Printing ภายในบริษัท ด้วยเครื่องในซีรีส์ Fuse